เคล็ด..ในการคัดที่นอนให้เป็นการสมควรพร้อมตนเอง

เตียงดีไม่มีหัก แต่ก่อนที่คุณจะออกไปเลือกซื้อที่นอน ถูกเตรียมหาคำตอบกับกระทู้ถามเหล่านี้ไว้เก่า  จะทำให้การคัดเลือกที่นอนง่ายขึ้น ไม่เสียเวลาแต่เช่นใด  ตรวจตราความหมายมั่นและตำแหน่งร่างกายของตัวเอง  เพราะอะไรถึงต้องสำรวจตัวเองก็เพราะหลาย ๆ ท่านมักจะมีปมปัญหากับอาการร่างกาย เช่น ปวดหลัง ปวดเอว จึงจำเป็นต้องหาที่นอนที่สามารถซาลงอาการเหล่านี้ได้หรืออย่างน้อยจะต้องไม่ซ้ำเติมให้ท่วงทีหนักขึ้นไปอีก กับใครที่ชอบนอนที่นอนแข็งๆ ก็ต้องหาข้อมูลว่าที่นอนแข็งๆ มันทำมาจากอะไรมีผลดีผลร้ายประการใดต่อร่างกาย หาข้อมูลเพราะที่นอนประเภทต่าง ๆ อันนี้ถือว่าจำเป็นมากๆ เพราะจะทำให้คุณมีข่าวรู้จริง ไม่ต้องคล้อยตามพนักงานขายแต่เพียงอย่างเดียวเพื่อแผนกและประเภทของที่นอน ขอกล่าวสรุปเป็นแผนกอย่างนี้

ส่วนแข็ง    ตัวอย่างเช่น ที่นอนที่ทำจากยางพารา มีความนิ่มและยืดหยุ่นดี ความหนักเบามากคงอาการดี อายุการใช้งานไม่ค่อยนานนัก สรรพคุณเด่นคือ เก็บความชื้นและฝุ่นผง ระบายดินฟ้าอากาศได้น้อยและยังดูดความชุ่มชื้นได้ดี  เพราะเช่นนั้นใครที่ชอบที่นอนยางพาราก็ขอให้ยั้งคิดให้ดีก่อนอีกชนิดหนึ่งได้แก่ ที่นอนใยมะพร้าว ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างแข็ง ไม่นุ่มเท่ายางพารา น้ำหนักมากคงอาการดีไม่สะสมความชุ่มชื้น ระบายอากาศได้ดี เพราะด้านในโปร่งต่างจากที่นอนยางพารา แต่ถ้าชอบที่นอนแข็งผมขอแนะนำที่นอนใยมะพร้าวจะดีกว่า

“งานช่างฝีมือประดับมุก” ศิลปหัตถกรรมชั้นสูงของไทย

%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%97

ศิลปะการตกแต่งที่มีความวิจิตรงดงามปรากฏอยู่บนบานประตูหน้าต่างของพระอุโบสถวิหารหรือพระบรมมหาราชวัง รวมถึงบนภาชนะเครื่องใช้ของพระสงฆ์ เช่น ตู้  พระมาลัย  ธรรมาสน์  ตะลุ่ม พานแว่นฟ้า  กล่องใส่หมากพลู  เป็นต้น โดยมีลวดลายประดับตกแต่งจำพวกลายกนก  ลายกระจัง  และลายก้านขด หรือแม้แต่เขียนเป็นภาพกินรี  ราชสีห์  คชสีห์  ประกอบตามส่วนต่าง ๆ  อาทิ  อนึ่งงานช่างนี้เป็นงานประณีต  มีความละเอียดอ่อนและใช้ฝีมือเป็นอย่างยิ่ง  จึงทำให้เป็นงานที่สิ้นเปลืองเวลาและมีราคาสูงตามไปด้วย  ดังนั้นงานช่างประดับมุกจึงไม่ค่อยมีผู้สนใจมาเรียนรู้มากนักจะมีก็แต่ช่างผู้มีใจรักจริงๆ เท่านั้น ปัจจุบันถึงแม้จะมีผู้เห็นคุณค่าได้ลงมือทำงานช่างประดับมุกอย่างจริงจังเป็นล่ำเป็นสัน  แต่ทว่าฝีมือไม่อาจเทียบเคียงกับผลงานในอดีตได้

งานช่างประดับมุกถือว่าเป็นของใช้ชั้นสูงเพื่อเชิดชูความมีตำแหน่งฐานะ ในอดีตจะใช้กันในแวดวงจำกัดของสถาบันกษัตริย์ชนชั้นสูง  และหมู่สงฆ์ทั้งหลายเท่านั้น  จึงทำให้งานช่างประเภทนี้ไม่แพร่หลาย  อีกทั้งเป็นงานช่างที่ต้องอาศัยฝีมือความละเอียดรอบคอบความมุมานะพยายามเป็นอย่างสูง  เพราะว่าลวดลายต่างๆ ของลายประดับมุกมีความละเอียด ช่างประดับมุกต้องอาศัยความสามารถความชำนาญในการสร้างแม่ลายให้เข้ากับสีที่จะประดับมุก ไม่ว่าจะเป็นภาชนะหรือบนบานประตูหน้าต่างไปจนถึงโต๊ะเตียงก็ตาม  ยิ่งถ้าเป็นภาชนะมีเหลี่ยมมุมโค้งเว้าด้วยแล้วการสร้างลายและการประดับมุกไปตามส่วนนั้นๆ ก็ยิ่งทำได้ยาก อย่างไรช่างไทยก็ได้สร้างศิลปหัตถกรรมหรือผลงานประณีตศิลป์ขั้นสูงได้มาก  มีหลักฐานปรากฏตามวัดวาอาราม  หรือในพระบรมมหาราชวังมากมาย  แต่เป็นที่น่าเสียดายที่งานช่างประดับมุก  ณ  สถานที่นั้นขาดการดูแลเอาใจใส่  ดูแลรักษาจึงทำให้ลวดลายของมุกที่ประดับไว้จากที่เคยงดงามมาแต่อดีตดูคร่ำมัวลงไป  จนบางแห่งเลอะเลือนจนเกือบมองไม่เห็นลวดลายที่มีคุณค่าเหล่านั้น

งานช่างฝีมือประดับมุก มีประวัติความเป็นมาอย่างไรยังไม่ทราบหลักฐานแน่ชัดเพราะไม่เคยมีหลักฐานหรือจารึกใดๆ  เลยว่าชนชาติไทยเริ่มคิดค้นประดิษฐ์งานมุกได้เมื่อไหร่ หรือได้รับอิทธิพลจากชาติใด  อย่างเช่น  จีน  เวียดนาม  หรือญี่ปุ่น  ซึ่งก็มีการนำเปลือกหอยมุกมาใช้ประโยชน์ในงานศิลปกรรมเหมือนกับไทย  แต่วิธีการประดับและลวดลายนั้นแตกต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง  อย่างไรก็ตามจากหลักฐานทางโบราณคดีของการนำเปลือกหอยมาประดับตกแต่งเป็นลวดลายที่เก่าที่สุด  พบว่าสมัยทวารวดีมีการใช้มุกประดับเป็นลวดลายการตกแต่งอยู่บนปูนปั้นบนโบราณสถานที่ตำบลคูบัว  อำเภอเมืองราชบุรี  มีอายุประมาณศตวรรษที่  ๑๒  นับได้ว่าเป็นหลักฐานที่เก่าที่สุด  สมัยเชียงแสนลงมาก็มีการฝังมุกที่พระเนตรของพระพุทธรูปกระทั่งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา  จึงพบงานช่างประดับมุกชนิดใช้รักเป็นตัวเชื่อมเช่นปัจจุบัน  มีหลักฐานเก่าแก่ที่สุดคือ  ตู้พระไตรปิฏกประดับมุกอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

คุณค่าทางศิลปะให้อะไรแก่เด็กเยาวชน

%e0%b8%a8%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81

โลกของงานศิลปะไม่ใช่แค่การจับดินสอมาวาด จับดินมาปั้นให้เหมือนและดูดีอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจกัน งานศิลปะนั้นต้องอาศัยเทคนิคอีกสารพัด ต้องมีการพัฒนาอีกหลายๆ ขั้นในเชิงความคิดสร้างสรรค์ด้วย

ถ้าจะให้ความหมายของศิลปะอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก หลายคนจะคิดว่างานศิลปะ คือ งานสร้างสรรค์ที่ผู้สร้างสรรค์ใช้จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ถ่ายทอดสิ่งที่สะท้อนความคิด จิตใจ จิตวิญญาณของตัวเองออกมาเป็นผลงาน สำหรับเด็กแล้วงานศิลปะถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก คือ

1. ด้านอารมณ์ เด็กจะเพิ่มคุณค่าในตัวเอง ความเชื่อมั่น ชื่นชม ยอมรับในผลงานของตัวเองและคนอื่น มีความสุข สร้างความรับผิดชอบ และวินัย

2. ด้านสติปัญญา ได้รู้จักการแก้ปัญหา มีจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ทำงานโดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นระบบ มีทักษะการสังเกต การเปรียบเทียบ การคำนวณ พัฒนาทั้งด้านภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น

3. ด้านร่างกาย เด็กจะมีโอกาสฝึกการใช้กล้ามเนื้อ มือและตาให้ทำงานอย่างประสานกัน และการเคลื่อนไหวอวัยวะส่วนต่างๆ

4. แก่เด็กด้านสังคม ได้ฝึกการปรับตัว การทำงานร่วมกัน ลดการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เรียนรู้จักการแบ่งปัน

ทำไมต้องกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ?

%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3

กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานแล้วว่าช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดย ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ผู้ที่ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ.1990 ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Eat Right for Your Type โดยเขาเชื่อว่า “เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน โดยมีแอนติเจนเป็นกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการเหี่ยวนำและจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า “เลกติน” ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน”

จากความแตกต่างของสารเคมีในเลือดนี่เอง จึงทำให้เลือดแต่ละกรุ๊ปมีความสามารถในการย่อยต่างกัน ถ้าสามารถย่อยได้หมด ร่างกายก็จะสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าย่อยไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกายและเน่าเสีย เมื่อถูกดูดซึมกลับไปอีกครั้งก็จะทำให้ร่างกายป่วยง่ายขึ้น (แต่ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนแนวคิดของ ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ที่ว่าหมู่เลือดกับอาหารนั้นมีความสัมพันธ์กัน แต่ลองทานกันดูก็ไม่เสียหายครับ – ผู้เขียน)

สรุปก็คือ การกินอาหารไม่ตรงตามกรุ๊ปเลือดจะมีผลให้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ภูมิแพ้ และมีความเสื่อมตามเซลล์และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เร็วขึ้น

วิธีสังเกตว่าเรากินอาหารได้เหมาะสมแล้วหรือยัง ?

เริ่มต้นจากให้เราพยายามสังเกตและจดทุกอย่างที่เรากินหรือมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น เช่น วันนี้กินอะไรเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือหมดแรง จากนั้นก็ทำการจดบันทึกอาหารประจำวัน เพื่อเช็คว่าเรากินอาหารได้อย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง ซึ่งเราอาจพบว่าตัวเองกินอาหารไม่เหมาะสมมาตลอดก็ได้

ส่วนผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก หลาย ๆ คนคิดว่าความอ้วนมาจากการกินเยอะ จึงพยายามกินอาหารให้น้อยลง จนร่างกายขาดสารอาหาร สมองจึงไม่สั่งให้หยุดกิน ทำให้เรากินอะไรเข้าไปแล้วไม่รู้สึกอิ่ม ร่างกายจึงได้รับอาหารมากเกินไป ทั้งที่ยังไม่ได้สารอาหารที่ต้องการ แต่ถ้าเรากินอาหารตามกรุ๊ปเลือดได้อย่างเหมาะสม สมองก็จะรับรู้และทำให้รู้สึกอิ่ม ปริมาณอาหารที่กินก็น้อยลง ทำให้มีรูปร่างสมส่วนมากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะกินอาหารที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของเรา มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

สำหรับคนไทยกับชาวต่างชาติ แม้จะมีกรุ๊ปเลือดเดียวกัน แต่ก็ควรกินอาหารต่างกันตามภูมิประเทศที่อยู่ด้วย เพราะอาหารแต่ละชนิดจะเหมาะกับคนในภูมิประเทศนั้น ๆ เนื่องจากมีสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมเป็นตัวกำหนดว่าคนท้องที่ใดควรกินอาหารแบบใด เช่น คนไทยที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศที่มีอากาศหนาวมาก ๆ แต่ก็ยังกินอาหารเหมือนเดิม เช่น น้ำพริก ส้มตำ ฯลฯ และหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกชีส ขนมปัง หรือเหล้าที่นิยมดื่มเพื่อให้ความอบอุ่นหลังอาหาร ก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้ สรุปแล้วไม่ว่าคุณจะเป็นคนกรุ๊ปเลือดใดก็ตาม ก็ควรจะกินอาหารให้เหมาะกับภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้วย จึงจะดีที่สุด

อายุมีผลต่อกรุ๊ปเลือดหรือไม่ ?

ความจริงแล้วโรคภูมิแพ้และปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ล้วนมีอายุเป็นตัวแปรเสมอ เช่น เด็กและคนชราที่ร่างกายมีความอ่อนแออยู่แล้ว จะมีโอกาสป่วยหรือเสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากกว่าคนหนุ่มสาวที่มีร่างกายแข็งแรง ดังนั้นการกินตามกรุ๊ปเลือดจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ร่างกายของทุกคนมีความแข็งแรงตามช่วงอายุ ถ้าเรากินเป็นประจำจนระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีแล้ว ก็จะส่งผลให้ร่างกายของเราแข็งแรงไปจนถึงวัยชรานั่นเอง

ความสัมพันธ์ของอาหารกรดและด่างกับกรุ๊ปเลือด

ปกติแล้วอาหารที่มีค่า pH 7.4 หรือมีความเป็นด่างอ่อน ๆ คือ ระดับที่เหมาะสมที่สุด แต่เมื่อเรากินเข้าไปจะเกิดการย่อยโดยกรดในกระเพาะอาหาร หากเรากินอาหารที่มีกรดมาก ๆ อย่าง เนื้อสัตว์ แป้ง หรือไขมัน อาหารเหล่านี้ก็จะไปเพิ่มความเป็นกรดและความเข้มข้นของเลือดให้มากขึ้น จนทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลงหรือติดขัดได้ ส่งผลทำให้เม็ดเลือดแดงเกาะตัวกันและเกิดเป็นประจุบวก เมื่อออกซิเจนน้อยลงจนเซลล์ไม่สามารถนำไปใช้งานได้เพียงพอ ก็จะส่งผลทำให้หัวใจขาดออกซิเจน จนเกิดการช็อกหรือสลบได้ (ในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต) ดังนั้นเราจึงควบคุมปริมาณของกรดและด่างในร่างกายให้สมดุล

สรุป ปริมาณของกรดและการรับประทานเนื้อสัตว์นั้นมีความสัมพันธ์กัน ถ้าเรามีกรดในกระเพาะอาหารมาก ก็จะย่อยอาหารจำพวกโปรตีนหรือเนื้อสัตว์ได้มาก แต่ถ้ามีกรดในกระเพาะน้อยก็ต้องเน้นการรับประทานผักแทนเนื้อสัตว์ เพื่อให้ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมอาหารได้อย่างเต็ม ซึ่งถ้าแบ่งตามกรุ๊ปเลือดแล้วก็จะสามารถสรุป (เรียงลำดับจากมากไปน้อย)

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Introduction to Mobile software)

เมื่อกล่าวถึงคำว่า “Mobile” คนทั่วไปมักจะเข้าใจในความหมายว่า เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ที่จริง ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ เสริมอีก เช่น สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องแปลภาษา, เครื่องคิดเลข หรือ เครื่องจัดการนัดหมาย/บันทึกช่วยจำ (Organizer) เป็นต้น ฯลฯ

มีคำใช้เรียกต่าง ๆ หลายคำ ซึ่งจะมีความหมายใกล้เคียงกับ Mobile เช่น Embedded Devices, PDA, Palm sized / Handheld, Smart Phone ตัวอย่างเช่น

  1. Embedded Devices คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีการฝังตัว เป็นเหมือนสมองกลใช้ควบคุมการทำงานในเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ, เครื่องซักผ้า, เครื่องเย็บผ้า ฯลฯ
  2. PDA (Personal Digital Assistant) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กพกพาได้ง่าย มักใช้ทำงานส่วนตัวโดยทั่วไปจะใช้เรียก Palm หรือ Pocket PC
  3. Palm sized / Handheld หรือ PDA เอง แต่เรียกตามขนาดเครื่อง (ที่มีขนาดเล็กประมาณพอ ๆ กับฝ่ามือ หรือถือไปไหนด้วยมือเดียวได้)
  4. Smart Phone คือ โทรศัพท์มือถือ ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ สามารถทำงานในแบบเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยมี ระบบปฏิบัติการ เป็นของตัวเอง (มักเรียก OS : Operating System)

สรุปรวมว่า ความหมายของ Mobile คือ “อุปกรณ์ ที่ใช้ในการพกพา ทำงานได้เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์”เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่พกพาได้ จึงมีคุณสมบัติเด่น คือ ขนาดเล็ก (พอจะถือไปในสถานที่ต่าง ๆได้), น้ำหนักเบา, ใช้พลังงานค่อนข้างน้อย, มักใช้ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง, ติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกับคอมพิวเตอร์ได้ และที่สำคัญคือ สามารถเพิ่มหน้าที่การทำงานได้ โดยอาศัย Software Mobile มองในแง่จัดแบ่งตาม OS จะได้ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ คือ Smart Phone, Palm และ Pocket PC

  1. Smart Phone ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian (มีส่วนแบ่งในตลาดของผู้ใช้สูงมาก) และ Linux (มีการใช้บ้าง แต่ยังไม่มากนัก)
  2. Palm ใช้ระบบปฏิบัติการ Palm OS
  3. Pocket PC ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows CE (มาจากคำว่า Compact Edition มักนิยมเรียกว่า Windows Mobile)

โปรแกรมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

iphone-application1

  1. Application Software หมายถึง ระบบงานต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น บันทึกการนัดหมาย, ดูหนังฟังเพลง, จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
  2. Development Software เป็น Software ที่ใช้สร้าง และ พัฒนาระบบงานต่าง ๆ (ใช้สร้าง Application Software)

เนื่องจาก Application Software เป็นระบบงานต่าง ๆ ที่ได้พัฒนามาเสร็จแล้ว พร้อมใช้งาน เราจึงได้แต่ใช้งานเพียงอย่างเดียว ไปทำอะไรนอกเหนือไม่ได้อีก แต่ที่ใช้สร้าง และพัฒนางานต่าง ๆ ก็จะมีแต่ตัว Development Software เท่านั้น ดังนั้น ในที่นี้จะขอกล่าวถึง Mobile Software ในแง่ที่เป็น Development Software เป็นหลัก

ศิลปะการออกแบบและตกแต่งอาหารแบบสร้างสรรค์

iq1719139246ac1733f8a8388635b8600fการออกแบบตกแต่งอาหาร เป็นการนำเอาศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ตามแบบมาตรฐานสากลเพื่อมาปรับใช้กับอาหาร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและคุณค่าที่ช่วยสร้างความพึงพอใจได้ ประโยชน์สูงสุดที่สามารถก่อเกิดมูลค่าได้ โดยอาหารที่สวยงามจะถูกนำมาใช้ต่อไปเพื่อเชิงธุรกิจการค้า ซึ่งแนวคิดการออกแบบอาหารจะเน้นที่มีความสดใหม่  การนำเสนอความความเรียบง่ายที่ไม่ทำให้ดูรก แต่ทำให้มันเรียบหรูดูดีด้วยตัวของมันเอง เนื่องจากอาหารไทยเป็นอาหารที่มาจากชาววังและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะมีความจัดจ้านของสีสันและรสชาติที่หลากหลาย สิ่งหนึ่งที่การออกแบบอาหารต่างจากการออกแบบสาขาอื่นๆ คือ มีความอ่อนไหวต่อการยอมรับสูง ไอเดียที่แปลกใหม่แม้จะใช้ได้ดีในทางปฏิบัติก็อาจจะถูกปฏิเสธจากผู้บริโภคได้ง่ายๆ การจะสร้างความสำเร็จให้แก่การออกแบบควรจะต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มที่เป็นเป้าหมายในการออกแบบของเราให้ดีพอสมควร

อาหารนอกจากสนองความต้องการทางกายของมนุษย์แล้ว อาหารยังสนองความต้องการทางด้านจิตใจ สังคมและวัฒนธรรม ดังนั้นในการบริโภคอาหารผู้จัดอาหารจึงต้องใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ตกแต่งอาหารเพื่อให้อาหารเป็นเครื่องจรรโลงใจในขณะเดียวกันศิลปะเกี่ยวกับการอาหาร ก็มีองค์ประกอบศิลปะที่นำมาเกี่ยวข้องในการจัดอาหาร ความก้าวหน้าในการออกแบบอาหารนั้นเป็นส่วนผสมระหว่างศิลปะ เทคโนโลยี และพฤติกรรมทางสังคม ผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับการออกแบบอย่างดีนั้นจะมีสัดส่วนของมิติเหล่านี้โดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป อาหารสามารถถูกออกแบบได้ในขอบเขตที่หลากหลาย ตั้งแต่องค์ประกอบที่พื้นฐานมากๆ อย่างรูปทรง สีสันของอาหาร ไปสู่รูปแบบของอาหาร จนถึงระดับที่กว้างขวางซับซ้อนอย่างการออกแบบประสบการณ์โดยรวมของผู้กิน

อาหารที่สวยจริงต้องเริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ ต้องทำให้วัตถุดิบคงสภาพเดิมให้มากที่สุด นั่นคือ สีสัน รูปทรง คือให้ผู้บริโภครู้ว่าวัตถุดิบที่นำมาปรุงนั้นคืออะไร ไม่ใช่ทำจนเสียสภาพ ขาดความสดใหม่ไป ภาชนะจานชามทำให้อาหารเป็นพระเอกได้ สำหรับผู้ที่ทำร้านอาหาร การนำเสนอภาพให้สวยงามของอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ภาชนะจึงควรใช้ สีขาวเพราะอาหารไทยมีสีสันและรสชาติหลากหลาย สีสันของภาชนะจะต้องไม่ไปรบกวนสีของส่วนผสมได้เลย การประดับตกแต่งหัวจานถือว่าการมีงานแกะสลัก ดอกไม้ประดับอาหาร เป็นการรบกวนอาหารในจานอย่างยิ่ง

การสร้างสรรค์งานศิลปะเป็นการถ่ายทอดความงามผ่านสื่อวัสดุต่าง ๆ

1เมื่อเราพูดถึงศิลปะเรามักจะหมายถึง ความงาม แต่ความงามในที่นี้เป็นเรื่องของคุณค่าที่เป็นคุณค่าทางสุนทรียะ  แตกต่างจากคุณค่าทางเศรษฐกิจ ที่เป็นราคาของวัตถุแต่เป็นคุณค่าต่อจิตใจ ความงามเกิดขึ้นด้วยอารมณ์ มิใช่ด้วยเหตุผลความคิดหรือข้อเท็จจริงคนที่เคร่งครัดต่อเหตุผลหรือเพ่งเล็งไปที่คุณค่าทางวัตถุจะไม่เห็นความงาม คนที่มีอารมณ์ละเอียดอ่อนไหวจะสัมผัสความงามได้ง่ายและรับได้มากความงามให้ความยินดี ให้ความพอใจได้ทันทีโดยไม่ต้องมีเหตุผล  ความยินดีนั้นเกิดขึ้นเองโดยไม่มีการบังคับ ความงามนั้นเกี่ยวข้องกับวัตถุก็จริง แต่มิได้เริ่มที่วัตถุมันเริ่มที่อารมณ์ของคน ดังนั้น ความงามจึงเป็นอารมณ์ เป็นสุขารมณ์หรือเป็นอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความสุน เป็น 1 ใน 3 สิ่งที่ก่อให้เกิดความสุขกับมนุษย์ ซึ่งได้แก่ ความดี ความงามและความจริง ผู้ที่ยอมรับและเห็นใน คุณค่าของทั้งสามสิ่งนี้ จะเป็นผู้มีความสุข   เนื่องจากความงามเป็นอารมณ์เป็นสิ่งที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดความงามจึงเป็นนามธรรม ดังนั้น การสร้างสรรค์งานศิลปะก็เป็นการถ่ายทอดความงามผ่าน สื่อวัสดุต่าง ๆ ออกมา เพื่อให้ผู้อื่นได้สัมผัส ได้พบเห็นได้รับรู้สื่อต่าง ๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ชม เกิดอารมณ์ทางความงามที่แตกต่างกันตามค่านิยมของแต่ละบุคคลความงามไม่ใช่ศิลปะ เนื่องจากว่าความงามไม่จำเป็นต้องเกิดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ในธรรมชาติก็มีความงามเช่นกัน เช่น บรรยากาศขณะที่พระอาทิตย์ขึ้น หรือตกดิน ความสวยงามสดชื่นของดอกไม้ ทิวทัศน์ธรรมชาติต่าง ๆ เป็นต้น งานศิลปะที่ดีจะให้ความพึงพอใจในความงามแก่ผู้ชมในขั้นแรกและจะให้ความสะเทือนใจที่คลี่คลายกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยอารมณ์ทางสุนทรียะของผลงานศิลปะนั้นในขั้นต่อไป ความงามในงาน ศิลปะออกเป็น 2 ประเภท คือ

ความงามทางกายเป็นความงามของรูปทรงที่กำหนดเรื่องราว หรือเกิดจากการ ประสานกลมกลืนกันของทัศนธาตุ เป็นผลจากการจัดองค์ประกอบทางศิลปะ ความงามทางใจ ได้แก่ ความรู้สึก หรืออารมณ์ที่แสดงออกมาจากงานศิลปะหรือ ที่ผู้ชมสัมผัสได้จากงานศิลปะนั้น ๆ ในงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ๆ มีความงามทั้ง 2 ประเภทอยู่ร่วมกันแต่อาจแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งมากน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของงาน เจตนาของผู้สร้างและการรับรู้ของผู้ชมด้วย ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า “ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความงาม และความพึงพอใจ” ที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์สืบเนื่องกันมาตั้งแต่อดีตอันยาวนานจนถึงปัจจุบันและจะสร้างสรรค์สืบต่อไปในอนาคตให้อยู่คู่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปตราบนานเท่านานโดยมีการ สร้างสรรค์ พัฒนารูปแบบต่าง ๆ ออกไปอย่างมากมายไม่มีที่สิ้นสุด

ศิลปะกับการบําบัดผู้ป่วย

การแพร่หลายของศิลปะบําบัด ในโลกยังมีไม่มากเท่าที่ควร โดยจะพบมากที่สาธารณรัฐเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สำหรับในด้านเอเซีย จะพบได้ที่ญี่ปุ่นและเกาหลี ทั้งนี้การแพร่หลายในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนโดยตรงและนักศิลปะบําบัด เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญที่จบโดยตรงยังมีน้อยมาก ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีโรงพยาบาลบางแห่งได้มีการนําดนตรีมาใช้ในการขับกล่อมผู้ป่วยและญาติ ในระหว่างรอตรวจหรือรอรับยาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งมีทั้งรูปแบบการเปิดเทปและการแสดงสดของนักดนตรี ทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีและในอนาคตจะพัฒนาไปสู่การนําไปใช้เพื่อการบําบัด เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ช่วยลดการใช้ยาระงับปวดลงด้วย ในปัจจุบันศิลปะบําบัด มีการนํามาใช้ในกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ กลุ่มบกพร่องทางพัฒนาการ สติปัญญา ออทิสติกและในกลุ่มเด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์ จิตใจ พฤติกรรมต่างๆ เนื่องจากสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ บรรเทาปัญหาทางด้านอารมณ์ จิตใจ และพฤติกรรมได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมด้านศิลปะบําบัด เพื่อสร้างนักวิชาชีพด้านศิลปะบําบัดที่มีคุณภาพและเพียงพอ สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยได้ด้วย

ผลดีของการนำศิลปะบำบัดมาใช้กับการรักษา ประกอบไปด้วย

– การวาดภาพทำให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้นซึ่งก่อให้เกิดบาดแผลทางจิตใจ

– สามารถนำมาใช้เพื่อนำเข้าสู่เป้าประสงค์ตามที่กำหนดไว้

– เพิ่มการแสดงออกด้วยการวาดภาพและการใช้คำพูดร่วมกัน

– สามารถนำเอาภาพวาดมาเป็นเครื่องมือเพื่อการสื่อสารภายในกลุ่ม

– ผลิตผลเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มคุณค่าแห่งตน

– ให้โครงสร้างกับกลุ่มในลักษณะที่เป็นรูปธรรมได้ง่าย

– การแสดงออกของความคิด ความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ

– ผู้เข้าร่วมกลุ่มรู้สึกลดภาวะของการถูกคุกคามลงไปได้มาก

นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนคลายความเครียดด้วยศิลปะและเสียงเพลง โดยนําไปใช้กับงานศัลยกรรมออร์โทพีดิกส์ ซึ่งคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน นักวิจัยได้ให้คนไข้ฟังเพลงและแขวนรูปภาพสวยๆ ไว้บนผนัง โดยสับเปลี่ยนรูปภาพเสมอ  เนื่องจากช่วยลดความปวดได้น้อยลง และใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลน้อยลงด้วย

การนำเสนอการผลิตสื่อนวัตกรรมในเรื่องศิลปะเพื่อความเข้าใจง่ายขึ้นและน่าสนใจ

ศิลปะเหมือนเป็นนวัตกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะศิลปะไทยด้านต่างๆ นำมารังสรรค์ต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิม ยิ่งถือเป็นนวัตกรรมศิลปะไทยที่น่าพิสมัย

การผลิตสื่อการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเข้าใจในวิชาง่ายขึ้นและน่าสนใจ การสอนด้วยวิธีอ่านในหนังสือ หรือบรรยายให้ผู้เรียนฟังนั้นมันคงจะเป็นแบบสมัยก่อนแล้ว ปัจจุบันเนื่องจากมีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆทำให้เรามีโอกาสที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสีก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต เราควรนำมาเป็นสื่อในการเรียนการสอนได้ และให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนมากที่สุด

เราเรียนรู้เรื่องศิลปะมาจนสามารถบอกได้แล้วว่า ศิลปะคืออะไร ศิลปะแตกต่างจากธรรมชาติอย่างไร คราวนี้เรา ลองหลับตานึกภาพดูซิว่าถ้าโลกเราไม่มีสีเลย ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรามีแต่สีขาวกับสีดำ ไฟจราจรมีแต่ขาวกับดำ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีขาวกับดำ ต้นไม้ ดอกไม้มีแต่สีขาวกับดำ จะเป็นอย่างไร เราคง อึดอัด หดหู่ดูไม่มีชีวิตชีวา ฉะนั้น “สี” จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา เพราะสีช่วยให้ชีวิตของเราดูสดใส ร่าเริง หรือเศร้าหมองก็ได้ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ง่ายขึ้น เราจึงจำเป็นต้องรู้จักกับ “สี” ก่อน เพราะในชีวิตของเราหรือในงานศิลปะ สี ช่วยให้เกิดความงาม ความรู้สึก เพราะสีมีความหมายเฉพาะตัวของแต่ละสีอยู่ แต่ก่อนที่เราจะศึกษาบทเรียนเรื่อง “ศิลปะการใช้สี” เรามาทำความเข้าใจรู้จักความหมายและความสำคัญ ของสีที่มีต่อวิถีชีวิตของเราอย่างไรก่อนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สีเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต ซึ่งมนุษย์รู้จักสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ในอดีตกาลมนุษย์ได้ค้นพบสีจากแหล่งต่าง ๆ จาพืช สัตว์ ดิน และแร่ธาตุนานาชนิด จากการ ค้นพบสีต่าง ๆ เหล่านั้น มนุษย์ได้นำเอาสีต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง โดยนำมาระบายลงไปบนสิ่งของ ภาชนะเครื่องใช้ หรือระบายลงไปบนรูปปั้น รูปแกะสลัก เพื่อให้รูปเด่นชัดขึ้น มีความเหมือนจริงมากขึ้น รวมไปถึงการใช้สีวาด ลงไปบนผนังถ้ำ หน้าผา ก้อนหิน เพื่อใช้ถ่ายทอดเรื่องราวและทำให้เกิดความรู้สึกถึงพลังอำนาจที่มีอยู่เหนือสิ่งต่างๆทั้งปวง การใช้สีทาตามร่างกายเพื่อกระตุ้นให้เกิดความฮึกเหิม เกิดพลังอำนาจ หรือใช้สีเป็นสัญลักษณ์ในการถ่ายทอดความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง สีที่มนุษย์ใช้อยู่ทั่วไป ได้มาจากสสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และนำมาใช้โดยตรง หรือด้วยการสกัด ดัดแปลงบ้าง จากพืช สัตว์ ดิน แร่ธาตุต่าง ๆ สสารที่ได้จากการสังเคราะห์ซึ่งผลิตขึ้นโดยกระบวนการทางเคมี เป็นสารเคมีที่ผลิตขึ้นเพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ สะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นสีที่เราใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน แสงเป็นพลังงานชนิดเดียวที่ให้สี โดยอยู่ในรูปของรังสี (Ray) ที่มีความเข้มของแสงอยู่ในช่วงที่สายตามองเห็นได้

ศิลปะและงานประติมากรรมของโรมันในยุคปัจจุบัน

1

ศิลปะโรมันส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากกรีกซึ่งมีองค์ประกอบที่ประณีต งดงาม แต่ศิลปะของโรมันเน้นความใหญ่โตมโหฬาร มีความหรูหรา สง่างาม มั่นคงแข็งแรง สถาปัตยกรรมโรมันมีชื่อเสียงมาก โรมันเป็นชาติแรกที่คิดค้นสร้างคอนกรีตได้ สามารถใช้คอนกรีตหล่อขึ้นเป็นโครงสร้างรูปโดมช่วยทำให้การก่อสร้างอาคารมีขนาดใหญ่ขึ้น สถาปัตยกรรมของโรมันที่มีชื่อเสียงได้แก่ วิหารแพนเธออน โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬารูปกลมรีขนาดใหญ่มหึมาสามารถจุคนดูได้ถึง 50,000คน นอกจากงานสถาปัตยกรรมดังกล่าวแล้ว ชาวโรมันยังสร้างสะพานโค้งข้ามแม่น้ำและส่งน้ำข้ามหุบเขาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก คือ ประตูชัย สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญ และฉลองชัยของทหารโรมัน โดยสร้างเป็นประตูโค้งขนาดใหญ่สำหรับให้ทหารเดินทัพผ่านเมื่อออกสงครามหรือภายหลังได้รับชัยชนะ ประดับด้วยภาพประติมากรรมนูนสูงอย่างสง่างาม

งานประติมากรรมของโรมันมีไม่มาก ส่วนใหญ่ขนย้ายมาจากกรีก มีการสร้างสรรค์ขึ้นเองบ้างแต่เป็นส่วนน้อยนอกนั้นทำเลียนแบบกรีกทั้งหมด ผลงานที่พบในกรุงโรมได้แก่ ภาพเลาคูนกับบุตรชายกำลังถูกงูกัด เป็นผลงานที่นำมาจากกรีก นอกนั้นได้แก่ภาพประติมากรรมของบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่น รูปจูเลียสซีซาร์ รูปจักรพรรดิออกัสตัส รูปจักรพรรดิคาราคัลลา รูปจักรพรรดิเนโร เป็นต้น งานจิตรกรรมของโรมัน มีการค้นพบภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยังอยู่ในสภาพดีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นภาพที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันของชาวโรมันนอกนั้นเป็นภาพในเทพนิยาย เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ลักษณะของภาพยังมีความงามที่สมบูรณ์ เป็นภาพเขียนสีและประดับด้วยหินสี (Mosaic) อย่างประณีต สวยงาม

ศิลปะไบแซนไทน์เป็นศิลปะที่มีลักษณะเชื่อมโยงความคิด และรูปแบบระหว่างตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกัน มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ศิลปะมีลักษณะใหญ่โต คงทนถาวร ประดับตกแต่งด้วยการใช้พื้นผิว อย่างหลากหลาย งานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของไบแซนไทน์ คือการทำหลังคาเป็นรูปกลม ต่างจากหลังคาของศิลปะโรมัน ที่ทำเป็นรูปโค้ง หลังคากลมแบบไบแซนไทน์ ภายนอกเรียกว่าโดม หลังคากลมช่วยให้สามารถสร้างอาคารได้ใหญ่โตมากขึ้น สิ่งก่อสร้างที่เป็นแบบฉบับของศิลปะดังกล่าว ได้แก่ โบสถ์เซนต์โซเฟีย ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล โบสถ์เซนต์มาร์โค ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

ลักษณะของภาพจิตรกรรมและงานจิตรกรรมที่นิยมสร้างสรรค์ขึ้นในปัจจุบัน

9

จิตรกรรมเป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการขีดเขียน การวาดและระบายสี เพื่อให้เกิดภาพเป็นงานศิลปะที่มี 2 มิติ เป็นรูปแบน ไม่มีความลึกหรือนูนหนาแต่สามารถเขียนลวงตาให้เห็นว่ามีความลึกหรือนูนได้ ความงามของจิตรกรรมเกิดจากการใช้สีในลักษณะต่าง ๆ กัน องค์ประกอบสำคัญของงานจิตรกรรม คือ ผู้สร้างงาน หรือ ผู้วาด เรียกว่า จิตรกร วัสดุที่ใช้รองรับการวาด เช่น กระดาษ ผ้า ผนัง ฯลฯ สี เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงเนื้อหา เรื่องราวเกี่ยวกับผลงาน งานจิตรกรรมเป็นงานศิลปะที่เก่าแก่ดั้งเดิมของมนุษย์ เริ่มตั้งแต่การขีดเขียนบนผนังถ้ำบนร่างกายบนภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ จนพัฒนามาเป็นภาพวาดที่ใช้ประดับตกแต่งในปัจจุบัน การวาดภาพเป็นพื้นฐานของงานศิลปะทุกชนิด ผู้สร้างสรรค์งานจิตรกรรมเรียกว่า จิตรกร งานจิตรกรรม แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ การวาดเส้น เป็นการวาดภาพโดยใช้ปากกาหรือดินสอ ขีดเขียนลงไปบนพื้นผิววัสดุรองรับเพื่อให้เกิดภาพ การวาดเส้น คือ การขีดเขียนให้เป็นเส้นไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ ๆ มักมีสีเดียวแต่ การวาดเส้นไม่ได้จำกัดที่จะต้องมีสีเดียว อาจมีสีหลายๆ สีก็ได้การวาดเส้นจัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของงานศิลปะแทบทุกชนิด อย่างน้อยผู้ฝึกฝนงานศิลปะควรได้มีการฝึกงานวาดเส้นให้เชี่ยวชาญเสียก่อน ก่อนที่จะไปทำงานด้านอื่น ๆ ต่อไป การระบายสี เป็นการวาดภาพโดยการใช้พู่กัน หรือแปรงหรือวัสดุอย่างอื่นมาระบายให้เกิดเป็นภาพการระบายสีต้องใช้ทักษะการควบคุมสีและเครื่องมือมากกว่าการวาดเส้นผลงานการระบายสีจะสวยงามเหมือนจริงและสมบูรณ์แบบมากกว่าการวาดเส้น

งานจิตรกรรมที่นิยมสร้างสรรค์ขึ้นมีหลายลักษณะดังนี้ คือ ภาพหุ่นนิ่ง เป็นภาพวาดเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้หรือวัสดุต่างๆ ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่อยู่กับที่ภาพคนทั่วไปแบ่งได้ 2 ชนิด คือภาพคน เป็นภาพที่แสดงกิริยาท่าทางต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยไม่เน้นแสดงความเหมือนของใบหน้าภาพคนเหมือนเป็นภาพที่แสดงความเหมือนของใบหน้าของคน ๆ ใดคนหนึ่งภาพสัตว์ แสดงกิริยาท่าทางของสัตว์ทั้งหลาย ในลักษณะต่าง ๆภาพทิวทัศน์ เป็นภาพที่แสดงความงาม หรือความประทับใจในความงาม ของธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อม ของศิลปินผู้วาด ภาพทิวทัศน์ยังแบ่งเป็นลักษณะต่าง ๆ ได้อีก คือภาพทิวทัศน์ผืนน้ำ หรือ ทะเล ภาพทิวทัศน์พื้นดิน ภาพทิวทัศน์ของชุมชนหรือเมือง ภาพประกอบเรื่องเป็นภาพที่เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราว หรือถ่ายทอดเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้อื่นได้รับรู้ โดยอาจเป็นทั้งภาพประกอบเรื่องในหนังสือ พระคัมภีร์ หรือภาพเขียนบนฝาผนังอาคาร สถาปัตยกรรมต่าง ๆ และรวมถึงภาพโฆษณาต่างภาพองค์ประกอบ เป็นภาพที่แสดงความสัมพันธ์ขององค์ประกอบของศิลปะและลักษณะในการจัดองค์ประกอบเพื่อให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้สร้างโดยที่อาจไม่เน้นแสดงเนื้อหาเรื่องราวของภาพหรือ แสดงเรื่องราวที่มาจากความประทับใจ โดยไม่ยึดติดกับความเป็นจริงตามธรรมชาติชนิดนี้ ปรากฏมากในงานจิตรกรรมสมัยใหม่ ภาพลวดลายตกแต่งเป็นภาพวาดลวดลายประกอบเพื่อตกแต่งสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดความสวยงามมากขึ้น เช่น การวาดลวดลายประดับอาคาร สิ่งของเครื่องใช้ ลวดลายสัก ฯลฯ

 

การใช้ศิลปะบำบัดเพื่อช่วยในการเยียวยาผู้ป่วย

3

ศาสตร์อย่างหนึ่งที่ช่วยปรับสมดุลข้างในจิตใจของผู้ที่เสียสมดุลให้กลับมาสู่โลกปกติ หรือภาวะที่กลับคืนมาสู่ความเป็นตัวเอง ซึ่งการเสียสมดุลในชีวิตนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนชรา และมาจากหลายๆ สาเหตุที่แตกต่างกัน จนทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตแย่ลง เช่น เกิดภาวะความเครียดหรืออาการเจ็บป่วยบางอย่าง หรือเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หรือติดยาเสพติด เป็นต้น นอกจากนี้เรายังใช้ศิลปะในการบำบัดกับเด็ก 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก แอสเพอเกอร์ ดาวน์ซินโดรม และกลุ่มเด็กที่มีปัญหาด้านพฤติกรรมหรืออารมณ์

ศิลปะนั้นสามารถเป็นเครื่องมือปลอบประโลมและขับกล่อมจิตใจ หันเหความสนใจออกจากความเจ็บปวดและความกังวล การประกอบกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง เพิ่มความรู้สึกถึงคุณค่าของตนเอง และแรงขับเคลื่อนสำหรับชีวิต ศิลปะไม่เชิงเป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสาร แต่เป็นเสียงที่สะท้อนออกมาจากภายใน ศิลปะไม่เพียงแค่เป็นการเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างโลกภายในและโลกภายนอก ประสบการณ์ต่อประสบการณ์ คนสู่คน ผู้ดูแลกับผู้ป่วย แต่ศิลปะถือเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ในการบำบัดเยี่ยวยาตนเองได้จริง

ศิลปะบำบัด เป็นกระบวนการสร้างสรรค์ในการทำศิลปะนั้นเป็นการเยียวยาและยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น และเป็นการสื่อสารความคิดความรู้สึกในรูปแบบที่ปราศจากคำพูด เช่นเดียวกับการบำบัดทางจิตวิทยารูปแบบอื่นๆหรือจิตวิทยาการปรึกษา มันถูกใช้เพื่อส่งเสริมการงอกงามทางจิตใจของแต่ละบุคคล ช่วยให้เข้าใจตนเองมากขึ้น และช่วยในการบำบัดรักษาทางด้านอารมณ์ คนทุกคนมีศักยภาพในการที่จะแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และชิ้นผลงานนั้นไม่สำคัญเท่ากับกระบวนการเชิงบำบัดที่เกี่ยวข้อง ความสำคัญมิได้เจาะจงอยู่ที่คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ของการทำศิลปะแต่อยู่ที่การนำพาความต้องการการบำบัดของบุคคลให้ได้แสดงออก

การทำศิลปะบำบัด

1) Established rapport เป็นขั้นแรกของการบำบัด สร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้บำบัดกับผู้รับการบำบัด ซึ่งรวมถึงการประเมินสภาพปัญหา และวางแผนการบำบัดรักษาด้วย
2) Exploration เป็นขั้นของการสำรวจ ค้นหา วิเคราะห์ปมปัญหา ความขัดแย้งภายในส่วนลึกของจิตใจ
3) Experiencing เป็นขั้นการบำบัด โดยดึงประสบการณ์แห่งปัญหาขึ้นมาจัดเรียง ปรับเปลี่ยน แก้ไขใหม่ ในมุมมองและสภาวะใหม่
4) Empowerment เป็นขั้นสุดท้ายของการบำบัด โดยเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง และให้โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลง

ศิลปะสมัยใหม่ที่พัฒนามาจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ทัศนศิลป์ที่เปลี่ยนแปลงลักษณะรูปแบบศิลปะจากอดีตที่ปรากฏและสืบต่อกันมานาน ไปสู่ลักษณะรูปแบบศิลปะที่แปลกใหม่จากเดิมด้วยเหตุผลและเงื่อนไขอันหลากหลาย โดยพิจารณาทั้งรูปแบบ เนื้อหา และเทคนิค ดังนั้นจุดเริ่มต้นของทัศนศิลป์สมัยใหม่ของตะวันตก นักวิชาการด้านทัศนศิลป์ส่วนใหญ่ได้ถือเอาทัศนศิลป์แบบอิมเพรสชันนิสม์เป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะอย่างขนานใหญ่ ทั้งรูปแบบและจุดประสงค์ โดยเฉพาะสร้างสรรค์งานจิตรกรรม ศิลปินยุคใหม่ต่างพากันปลีกตัวออกจากการยึดหลักวิชาการ ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่มีรากฐานมาจากศิลปะกรีกและโรมัน มาใช้ความรู้สึกนึกคิดและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนอย่างอิสระ แยกศิลปะออกจากศาสนาโดยสิ้นเชิง ศิลปะจึงเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลอย่างแท้จริง

งานศิลปะสมัยใหม่ เป็นรูปแบบเฉพาะของศิลปินแต่ละคน เน้นความเป็นตัวของตัวเองของศิลปินแต่ละกลุ่มซึ่งมีมากมายหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็มีแนวคิด เทคนิค วิธีการที่แตกต่างกันออกไปอย่างหลากหลาย บ้างก็สะท้อนสภาพสังคม บ้างก็แสดงมุมมองบางอย่างที่แตกต่างออกไป บ้างก็แสดงภาวะทางจิตของศิลปิน และกลุ่มชน บ้างก็แสดงความประทับใจในความงามตามธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการนำเอาวัสดุอุปกรณ์แบบใหม่ ๆรวมถึงเครื่องจักรกลเข้ามาใช้ในการสร้างสรรค์งานมากขึ้น การบริโภคหรือการสนับสนุนงานศิลปะไม่จำกัดอยู่ที่ชนชั้นสูง ขุนนาง หรือผู้ร่ำรวยเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ศิลปะสมัยใหม่ของไทย ซึ่งเป็นแบบที่มีความแตกต่างกันจนยากที่จะกล่าวอย่างผิวเผินได้ วัสดุและเทคนิคใหม่ๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งผลผลิตของเครื่องจักรกล ได้สะท้อนไปสู่งานศิลปะทำให้รูปแบบของศิลปะมีความหลายหลายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันความรู้ทางด้านจิตวิทยาและวิชาฟิสิกส์ได้จัดแจงรูปแบบความคิดของศิลปินที่มีต่อมนุษย์และโลกทางกายภาพขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ต่างๆเหล่านี้ไม่สามารถที่จะอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆได้ แม้ว่าแนวโน้มศิลปะหลายๆแบบจะได้พยายามลดคุณค่าแบบอย่างศิลปะส่วนตนไปบ้าง แต่แนวโน้มที่แพร่หลายไปนี้ก็เน้นหนักที่ความคิดริเริ่มเป็นสำคัญ ลักษณะสำคัญของงานศิลปะสมัยใหม่ จึงเป็นปฏิกิริยาที่ศิลปินแต่ละคนแสดงออกต่อโลก รอบตัว การค้นหาอาณาจักรความฝันเฟื่องของแต่ละคน การสร้างโลกทัศน์ใหม่ ของตัวเองจากวัสดุ และเทคนิควิธีการที่แปลกใหม่ไปจากเดิม

แท็บเล็ตเทคโนโลยีเพื่องานศิลปะและการออกแบบดิจิตอลระดับสูง


วิชาศิลปะเป็นวิชาหนึ่งที่หลายมักตั้งคำถามว่า จะใช้แทบเล็ตเป็นเครื่องมือเพื่อเรียนศิลปะได้อย่างไร เพราะแทบเล็ตเป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่วัสดุสำหรับการเรียนศิลปะที่ครูอาจารย์คุ้นเคย แต่ความจริงแล้ว Apps (หรือ Application) เกี่ยวกับศิลปะ (Art) ในแทบเล็ตสามารถช่วยให้เรียนศิลปะสนุกขึ้น เช่น การจับคู่สี การผสมสี ฯลฯ แทบเล็ตยังเป็นเครื่องมือในการออกแบบงานศิลปะ ซึ่งนักเรียนสามารถร่างแผนงานไว้บนกระดาษก่อน แล้วจึงลงมือทำจริง นักเรียนสามารถใช้ปากกา (stylus pen) สำหรับแทบเล็ตในการวาดภาพเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เมื่อนักเรียนวาดภาพเสร็จแล้ว ก็สามารถแบ่งปันผลงานของตนเองให้นักเรียนคนอื่นได้ชื่นชม วิพากษ์วิตารณ และเสริมแรงเพื่อนได้ด้วย

โรงเรียนสอนศิลปะหรือหลักสูตรศิลปะของคุณจะทำงานร่วมกับนักเรียนเพื่อสร้างทักษะ ดึงศักยภาพ และเตรียมพวกเขาให้พร้อมรับความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ว่าพวกเขาจะไล่ตามความฝันเกี่ยวกับแอนิเมชัน การพัฒนาเกม การออกแบบแฟชั่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ ภาพยนตร์ การถ่ายภาพ และการออกแบบกราฟิกก็ตาม นักเรียนต้องมีความรู้ในเรื่องหลักสูตรที่ทดสอบตามเวลาและพื้นฐานวิชา เช่นเดียวกัน ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แท็บเล็ต Cintiq Companion, จอพร้อมปากกาเพื่อการสร้างสรรค์ Cintiq และแท็บเล็ต Intuos Pro ของเราคือองค์ประกอบสำคัญที่มอบการฝึกฝนและประสบการณ์ที่นักเรียนต้องการ

การริเริ่มนำกราฟิกแท็บเล็ตยยกระดับอิสระของการแสดงจินตนาการและเร่งการพัฒนาด้านการสร้างสรรค์ และจอพร้อมปากกาแบบเดียวกับที่บรรดามืออาชีพใช้กันในสตูดิโอและเอเจนซี่ชั้นนำของอุตสาหกรรมมาใช้กับนักเรียนศิลปะและการออกแบบที่เปี่ยมแรงบันดาลใจจะช่วยยกระดับอิสระของการแสดงจินตนาการและเร่งการพัฒนาด้านการสร้างสรรค์ การป้อนข้อมูลด้วยปากกาทำให้นักเรียนทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าพวกเขาจะวาดภาพ รังสรรค์การออกแบบใหม่ๆ สร้างโมเดล 3 มิติ หรือแก้ไขภาพถ่าย การนำผลิตภัณฑ์เพื่อการสร้างสรรค์ของเราไปใช้ในห้องเรียนให้ประโยชน์ที่สำคัญยิ่ง

– สอนให้นักเรียนใช้ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาจะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ
– รับประกันได้ว่านักเรียนจะมีเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างแฟ้มผลงานที่รวบรวมความสำเร็จในอาชีพ
– ดึงดูดนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้อย่างมากด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย

ความสำเร็จของนักเรียนในหลักสูตรศิลปะของคุณขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้สอนที่เปี่ยมทักษะ ความสามารถในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน และการช่วยเหลือสนับสนุน เป้าหมายคือการช่วยให้ผู้สอนและนักเรียนศิลปะและการออกแบบประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุด

การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมเติมแต่งในงานศิลปะ


เทคโนโลยีเป็นคำตอบทางผลิตผลของสังคมเมือง ศิลปะมีส่วนช่วยให้เทคโนโลยีต่างๆเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า แว่นตา เสื้อผ้า รถยนต์ รถประจำทาง จ้กรยานยนต์ มีคำว่ารสนิยมเป็นความหมายเกี่ยวกับความงามในสิ่งของที่คนในสังคมนิยมใช้ โลกปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัยคงได้แก่ คอมพิวเตอร์ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากมายในระบบดิจิตอล ระบบรถไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์พีซีหรือโน๊ตบุ๊ก การนำมาใช้อาศัยศิลปะเป็นสื่อในการเข้าถึงและสะท้อนคุณค่าของเทคโนโลยีให้ผู้สนใจได้สัมผัส ดังเช่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กที่มีความบางเฉียบสะท้อนคุณสมบัติความแม่นยำของเทคโนโลยีซึ่งประมวลผลเพียงแผ่วผ่านชิบที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับล้านตัวใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีได้อย่างแม่นยำ สีเข้มเคลือบมันวาวช่วยให้ดูเคร่งขรึมงามสง่าหากต้องการสีสันควรทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้นเล็กน้อยอาจใช้สีด้านช่วยผ่อนคลายจับได้ถนัดมือ

ปัจจุบันคำว่า ศิลปะไทย กำลังจะถูกลืมเมื่ออิทธิพลทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแทนที่สังคมเก่าของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกแห่งการสื่อสารได้ก้าวไปล้ำยุคมาก จนเกิดความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยอดีต โลกใหม่ยุคปัจจุบันทำให้คนไทยมีความคิดห่างไกลตัวเองมากขึ้น และอิทธิพลดังกล่าวนี้ทำให้คนไทยลืมตัวเราเองมากขึ้นจนกลายเป็นสิ่งสับสนอยู่กับสังคมใหม่อย่างไม่รู้ตัว มีความวุ่นวายด้วยอำนาจแห่งวัฒนธรรมสื่อสารที่รีบเร่งรวดเร็วจนลืมความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ

เมื่อเราหันกลับมามองตัวเราเองใหม่ ทำให้ดูห่างไกลเกินกว่าจะกลับมาเรียนรู้ว่า พื้นฐานของชาติบ้านเมืองเดิมเรานั้น มีความเป็นมาหรือมีวัฒนธรรมอย่างไร ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้เราลืมมองอดีตตัวเอง การมีวิถีชีวิตกับสังคมปัจจุบันจำเป็นต้องดิ้นรนต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าเรามีปัจจุบันโดยไม่มีอดีต เราก็จะมีอนาคตที่คลอนแคลนไม่มั่นคง การดำเนินการนำเสนอแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนศิลปะในครั้งนี้ จึงเป็นเสมือนการค้นหาอดีต โดยเราชาวศิลปะต้องการให้อนุชนได้มองเห็นถึง ความสำคัญของบรรพบุรุษ ผู้สร้างสรรค์ศิลปะไทย ให้เราทำหน้าที่สืบสานต่อไปในอนาคต

เทคโนโลยีมีส่วนช่วยผลักดันและพัฒนางานศิลปะให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย สามารถทำให้งานศิลปะที่หลายคนว่าเป็นเรื่องยาก เปลี่ยนเป็นเรื่องที่ง่าย  เทคโนโลยีสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตงาน อีกทั้งยังเพิ่มจำนวนปริมาณงานได้ไม่จำกัดจำนวน แต่ถึงอย่างไรนั้นเทคโนโลยีก็ยังมีขีดจำกัดต่อการสร้างสรรค์งาน การที่เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยต่อเติมงานศิลปะในปัจจุบันหรือศิลปะประจำชาติเรานั้น มุมมอง จุดประสงค์ของการสร้างงานนั้นแตกต่างกันตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว อีกทั้งคุณภาพและคุณค่าของงานยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในงานศิลปะประจำชาติเรานั้นจึงต้องรู้จักที่จะนำมาใช้อย่างพอดี พอประมาณ ศาสตร์ศิลปะบางแขนง เทคโนโลยีในปัจจุบันไม่สามารถนำมาช่วยเสริมเติมแต่งได้ เนื่องจากเป็นศิลปะเฉพาะทางซึ่งต้องใช้กรรมวิธีแต่โบราณสร้างงานขึ้นมา เพื่อรักษารูปลักษณ์ รูปแบบ วิธีการสร้างสรรค์เอาไว้ นี่ก็คือคุณค่าอันสูงยิ่งในงานศิลปะ ที่ศิลปะในปัจจุบันนั้นไม่มีและไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ ศิลปะในปัจจุบันยังนับว่ายังขาดคุณค่าและความงามที่แท้จริงของงานศิลปะ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญจึงต้องรู้จักกับจุดแห่งความพอดี เกิดจุดถ่วงความสมดุลในการนำเทคโนโลยีมาใช้  คือการสร้างงานด้วยความเคารพต่อต้นแบบที่นำมา ให้เกียรติต่องานหรือบุคคลที่เราได้นำผลงานมาคัดลอก รู้จักการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมใช้ในทางศิลปะอย่างพอเพียง ใช้อย่างพอประมาณเพื่อไม่ให้ไปทำลายความงามของศิลปะ ซึ่งจุดนี้เองตัวของผู้ผลิตสร้างสรรค์งานต้องพึงระลึกเสมอว่าการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยเสริมเติมแต่งในงานศิลปะ