SEO ช่วยให้ธุรกิจเติบโตบนโลกออนไลน์

Organic Search นั้นจะแสดงผลตามความเกี่ยวข้องระหว่างคำหรือคีย์เวิร์ดที่ใช้ Search กับเนื้อหาบนเว็บไซต์ เช่น เมื่อใช้คีย์เวิร์ดในการค้นหาว่า ร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย ก็จะเจอร้านค้าออนไลน์ เช่น Lazada และ Shopee ขึ้นมาเป็นลำดับแรก ๆ นั่นเป็นเพราะส่วนใหญ่ธุรกิจเหล่านี้ใช้กลยุทธ์ของ SEO โดยการเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหา SEO จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในยุคดิจิทัล ที่เราสามารถนำไปใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์

ทำให้เราเป็นผู้นำในตลาด

หลังจากที่รู้หลักการเลือกใช้คีย์เวิร์ดหลักให้เหมาะสมกับธุรกิจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เพราะเนื้อหาจะเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้แตกต่างจากคู่แข่งหรือเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนข้อมูลสินค้าสำหรับร้านค้า E-Commerce หรือหน้า Landing Page อื่น ๆ สำหรับอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ของเรา ควรเขียนเนื้อหาที่มีความน่าสนใจ และแตกต่างจากแบรนด์อื่น เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าให้ติดตามเว็บไซต์ของเรา การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสามารถสร้างตำแหน่งธุรกิจของเราได้ชัดเจนมากขึ้น และทำให้ลูกค้ารู้จักเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้นำตลาด

ช่วยประหยัดต้นทุน

SEO นั้นมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการทำการตลาดแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักได้ตรงกลุ่ม คือเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังสนใจสินค้าและบริการของเรา จึงเข้าไปทำการค้นหาโดยตรงใน Search Engine การมีกลยุทธ์ SEO ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์สามารถนำเสนอเนื้อหาได้ตรงกับสิ่งที่กำลังค้นหาช่วยเพิ่มจำนวนผู้ชมที่เข้ามาที่เว็บไซต์ และเมื่อมีผู้ชมเว็บไซต์ที่มากขึ้นก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นบนโลกออนไลน์ด้วยวิธีนี้เราสามารถประหยัดเงินจากการทำการตลาดแบบเดิมได้ในที่สุด การเรียนรู้ SEO อาจจะดูเป็นเรื่องยากในตอนแรก แต่หากเราเข้าใจ SEO ก็จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจได้มากทีเดียว

เชื่อมโยงเว็บไซต์ของเรากับกลุ่มเป้าหมาย

ลองนึกถึงเวลาที่ผู้บริโภคมีความต้องการในการซื้อสินค้า เข้ามาทำการค้นหา ใน Search Engine แล้วเจอแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก ก็ทำให้ผู้บริโภคกลายมาเป็นลูกค้าของเราได้ ฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของเราอยู่ลำดับต้น ๆ บนหน้า Search Engine เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ซึ่งสามารถอธิบายสินค้าหรือจุดเด่นของธุรกิจได้ดีที่สุด เช่น ถ้าเราขายรองเท้าที่ผลิตในญี่ปุ่น และต้องการให้เว็บไซต์อยู่ในหน้าแรกของ Search Engine ลองใช้คำว่า รองเท้าญี่ปุ่น เป็นคีย์เวิร์ดหลักบนเว็บไซต์อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกคีย์เวิร์ดหลัก ต้องตรวจสอบก่อนว่าคีย์เวิร์ดหลักนั้นได้รับการค้นหารายเดือนมากพอหรือไม่ เพื่อให้เราสามารถใช้คำนั้นได้ ควรใช้คีย์เวิร์ดหลักที่มีการค้นหาอย่างน้อย 1,000-5,000 คำต่อเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันจากเว็บไซต์อื่น ๆ หากคีย์เวิร์ดหลักนั้นมีการค้นหามากกว่า 100,000 คำต่อเดือน ก็แปลว่าเราจะมีการแข่งขันกับเว็บไซต์อื่นสูงในการค้นหาคีย์เวิร์ดหลักที่เหมาะกับธุรกิจของเราสามารถใช้เครื่องมือช่วยในการหาคำ เช่น Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือฟรีที่จะช่วยประเมินจำนวนการค้นหาคีย์เวิร์ดหลักต่อเดือน

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://seo.z.com/th/